เทคนิควิธีการอ่าน เค้าไพ่บาคาร่า ให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน
เทคนิควิธีการอ่าน เค้าไพ่บาคาร่า ให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน

บาคาร่าออนไลน์ Baccarat ชื่อเรียกเกมไพ่ชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะที่โดเด่น มาพร้อมกับดีลเลอร์สาวแสนสวย เกมบาคาร่าออนไลน์ ถือเป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บาคาร่า มีความคล้ายคลึงกับไพ่แบล็คแจ๊ค เป็นอย่างมากมาก จึงสันนิษฐานได้ว่า ต้นกำเนิดการเล่นบาคะรา น่าจะพัฒนามาจากการเล่นไพ่แบล็คแจ็คใน เค้าไพ่บาคาร่า หรือ ขอนไพ่ คือการอ่านรูปแบบการออกของไพ่ ซึ่งช่วยให้สามารถคำนวณได้ง่ายมากขึ้นว่า ในการเดิมพันครั้งต่อไป ความจะเดิมพันในรูปแบบใดเพื่อให้ชนะเดิมพันในเกม บาคาร่านี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นสูตรสำเร็จเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานจริง เพราะในการเล่น บาคาร่าออนไลน์นั้น ในการเดิมพันแต่ละครั้งมีเวลาในการเดิมพันที่จำกัด หากมัวแต่ คำนวณ เค้าไพ่บาคาร่า คงไม่ทันที่จะวางเดิมพันแน่นอน
สร้างกำไรไปกับเทคนิคการอ่านเค้าไพ่ บาคาร่าออนไลน์ Baccarat Online
- เค้าไพ่มังกร หมายถึง เค้าไพ่บาคาร่า ที่ผลการเดิมพันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดต่อกันหลายๆ ครั้ง ถ้าออกฝ่ายแดงก็จะเรียก มังกรแดง ถ้าออกฝ่ายน้ำเงินก็จะเรียก มังกรน้ำเงิน หากผู้เล่นเจอ เค้าไพ่มังกร ให้เดิมพันตามสีมังกรไปเรื่อย ๆจนกว่ามังกรจะหางขาด เค้าไพ่บาคาร่า รูปแบบนี้ แบ่งออกได้อีกคือ เค้าไพ่มังกรขี่กัน โดยรูปแบบ คล้ายเค้าไพ่มังกรทั่วไปแต่ตัดมาออกอีกฝั่งทับกันไปเรื่อย ๆ ตามแนวตาราง
- เค้าไพ่ปิงปอง หมายถึง ไพ่ที่ออกชนะสลับกันไปมาติดต่อกันหลายๆ ครั้ง เช่น แดง , น้ำเงิน , แดง , น้ำเงิน , แดง น้ำเงินหากเจอ เค้าไพ่บาคาร่า แบบนี้ก็แทงตามสูตรไปเรื่อย ๆโดยสถิติแล้ว เค้าไพ่ปิงปอง มีโอกาสพลาดน้อยมากโอกาสที่จะได้เงินสูงจะเสียก็ต่อเมื่อเวลาเปลี่ยนการออกแบบไพ่ของ Dealer เท่านั้น
- เค้าไพ่แดงสองตัวตัด หมายถึง ไพ่ที่ออกฝ่ายแดงชนะติดต่อกันไม่เกินสองครั้ง พอชนะติดต่อกันครบสองครั้งแล้วจะตัดไปน้ำเงินถ้าเกิดเป็นตรงกันข้าม ฝ่ายที่ออกสองตัวตัดเป็นฝ่ายน้ำเงินก็จะเรียก น้ำเงินสองตัวตัดโดยเทคนิคคือรอให้แดงออก 2 ครั้งก่อนจากนั้นก็ตามน้ำเงินไปเรื่อยๆจนกว่าจะถูกตัดด้วยแดงอีกครั้งจึงพักรอการเดิมพันใหม่
- เค้าไพ่ทริปเบิ้ล หมายถึง ไพ่ที่ออกชนะติดต่อกันสามครั้งสลับกันไปมาหลายๆ ครั้ง หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Triple โดยเทคนิคการอ่าน เค้าไพ่ บาคาร่า แบบนี้ เดิมพันคล้าย เค้าไพ่แดงสองตัวตัด เดิมพันตามสีเม็ดแรกตามไปเรื่อยๆ จนมันครบสามตัวแล้วค่อยตัดแทงสีตรงข้าม
- เค้าไพ่สามตัวตัด หมายถึง ไพ่ที่อยู่ในคอลัมน์ใดๆ ที่ชนะติดต่อกันไม่เกิน 3 ครั้ง พอชนะติดต่อกันครบ 3 ครั้ง ไพ่จะตัดเป็นออกสี่ตรงข้ามเมื่อชนะติดต่อกันครับ 3 ครั้งจะเปลี่ยนไปออกสีตรงข้าม
- เค้าไพ่แดงสามตัวตัด หมายถึง เค้าไพ่ บาคาร่า ที่ออกฝ่ายแดงชนะติดต่อกันไม่เกินสามครั้งพอชนะติดต่อกันครบสามครั้งจะตัดไปออกน้ำเงินถ้าเกิดเป็นตรงกันข้าม ฝ่ายที่ออกสามตัวตัดเป็นฝ่ายน้ำเงินก็จะเรียก น้ำเงินสามตัวตัด
- เค้าไพ่สี่ตัวตัด หมายถึง ไพ่ในคอลัมน์ใดๆ ที่ออกผลชนะติดต่อกันไม่เกินสี่ครั้ง พอชนะติดต่อกันครบสี่ครั้งแล้ว ไพ่จะตัดเป็นออกสี่ตรงข้าม
- เค้าไพ่แดงไม่ติด หมายถึง เค้าไพ่บาคาร่า ที่ออกแดงแค่ลูกเดียว หรือก็คือออกแดงแล้วจะไม่ออกแดงเบิ้ลอีกลูก ลูกต่อไปจะเป็นน้ำเงิน เค้าแดงไม่ติดบางคนก็เรียก แดงลอย ก็แล้วแต่จะเรียกเป็นตรงกันข้ามฝังที่ออก ไม่ติด เป็นน้ำเงินก็จะเรียก เค้าน้ำเงินไม่ติด ในภาษาบาคาร่า หมายถึง ไม่มีออกเบิ้ล
ทำไมจึงต้องเรียนรู้วิธีการอ่านเค้าไพ่
บาคาร่ามักจะออกซ้ำกันมากกว่า 70% สามารถดูสถิติการออก มาใช้เป็นตัวช่วยในการวางเดิมพัน เค้าไพ่ บาคาร่า กฎง่ายๆที่สามารถใช้ได้จริงในการเดิมพัน โดยการเลือกเดิมพันในแต่ละเค้าไพ่นั้นต้องใช้การสังเกตว่า จะมีทิศทางไปในรูปแบบใด เค้าไพ่ไม่เป็นรูปร่าง ให้เดิมพันจำนวนน้อย หรือ ไม่ต้องเดิมพันในรอบนั้นๆ เพราะหากไม่สามารถระบุเค้าไพ่ได้ ในการเสี่ยงที่จะทำให้เงินเดิมพันที่ลงทุนไปเป็น 0 ในการเล่น เมื่อมั่นใจ ให้เดิมพัน เยอะเพียงครั้งเดียวแล้วถอยกลับมาดูชั้นเชิงของ เกมบาคาร่า อย่าเดิมพันตามใจโดยไม่ดูรายละเอียดก่อนเพราะอาจทำให้หมดตัวได้เล้นแต่ว่าจะเข้ามาเล่นโดยไม่ได้หวังเงินกลับไป เลือกเล่นโต๊ะบาคาร่าที่มีเค้าไพ่ชัดเจน อย่าเล่นโต๊ะที่เพิ่งเริ่มเล่น กฎการเล่น เค้าไพ่ บาคาร่า สามารถนำไปใช้ได้กับทุกการเดิมพันโดยยึดหลักการเดียวกัน
บาคาร่าออนไลน์ มีวิธีการนับแต้มอย่างไร ?
สำหรับกฎและกติกาที่ควรรู้อย่างแรกนั่นก็คือ การนับแต้ม ซึ่งการนับแต้มของไพ่บาคาร่า นั้นจะต้องทำให้แต้มไพ่ในฝั่งที่นักเดิมพันให้ใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด ถึงจะเป็นฝ่ายชนะ โดยนักเดิมพันสามารถจั่วไพ่เพิ่ม ได้แค่คนละ 1 ใบเท่านั้น โดยวิธีการนับแต้มก็จะมีวิธีการนับ ดังนี้
A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
เลข 2 – 9 จะมีค่าเท่ากับ จำนวนเลขบนหน้าไพ่นั้นๆ อย่างเช่น เลข 5 ก็จะมีค่าเท่ากับ 5 แต้ม นั่นเอง
10 มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
J มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
Q มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
ตัวอย่างการนับแต้ม หากฝั่งผู้เล่นได้ไพ่หมายเลข 9 และ ไพ่ที่มีสัญลักษณ์เป็นตัว K แต้มรวมทั้งหมดของฝั่งผู้เล่นก็จะเป็น 5 แต้ม เนื่องจากไพ่ที่มีสัญลักษณ์ K นั่นจะมีค่าเท่ากับ 0 ซึ่งถ้าหากนำมารวมกัน ก็จะมีค่าเท่ากับ 9 แต้ม นั่นเอง ในทางตรงข้ามกัน หากไพ่ฝั่งเจ้ามือ ได้ไพ่ที่มีหมายเลข 10 และมีไพ่ที่มีหมายเลข 5 แต้มรวมของฝั่งเจ้ามือก็จะเป็น 5 แต้ม เนื่องจากไพ่หมายเลข 10 นั่นจะมีค่าเท่ากับ 0 แต้มเช่นกัน เมื่อมันถูกนำมาบวกกัน แต้มที่ออกมาก็จะได้ 5 แต้ม นั่นเอง